การเรียนรูรวมกัน Joint Learning การควบคุมในเครือขาย control in networks
_____________. 2 0 1 4 . Networks and Networking: The Public Administrative Agendas. Public Administration Review, 75 3, pp. 361 - 371. doi: 10.1111puar.12281
O‘Leary, R., Gerard, C., Bingham, L. B. 2006. Introduction to the Symposium on Collaborative Public
Management. Public Administration Review, December Special Issue, pp. 6 - 9.
O’Leary, R., Gazley, B., McGuire, M., Bingham, L. B. 2 0 0 9 . Public Managers in Collaboration. In R.
O’Leary L. B. Bingham Eds., The Collaborative Public Manager: New Ideas for the Twenty- first Century pp. 1 - 12. Washington, D.C.: Georgetown University Press.
Page, S. 2 0 0 8 . Managing for Results across Agencies: Building Collaborative Capacity in the Human
Services. In L. B. Bingham R. O’Leary Eds., Big Ideas in Collaborative Public Management. New York: M. E. Sharpe.
Rhodes, R. A. W. 1996. The New Governance: Governing without Government Political Studies, 44,
pp. 652 - 667.
Stoker, G. 1998. Governance as theory: five peopositions. UNESCO, 155, pp. 17 - 28. Weber, M. 1946. Bureaucracy. In J. M. Shafritz A. C. Hyde Eds., Classics of Public Administration pp.
16 - 27. Wadsworth: Cengage Learning.
The 2nd Khon Kean University International Conference on Public Administration 2015
เปรียบเทียบแนวคิดรัฐประศาสนศาสตรสมัยใหมมาสูแนวคิดรัฐประศาสนศาสตรหลังสมัยใหม Comparative Modernism Public Administration to Postmodernism Public Administration
จาตุรนต ทองหวั่น
นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร คณะมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน charturonyahoo.com
บทคัดยอ บทความนี้มีจุดประสงคเพื่อศึกษาเปรียบเทียบแนวคิดสมัยใหมมาสูแนวคิดหลังสมัยใหม ผานแนวคิดและวิธี
การศึกษาเชิงเปรียบเทียบ ในประเด็นตาง ๆ ในมิติที่แตกตางเชิงเปรียบเทียบ ผลการศึกษาพบวา รัฐประศาสนศาสตรหลังสมัยใหมเปนแนวคิดที่ตอตานรัฐประศาสนศาสตรในยุคสมัยใหมที่เนน
ความเปนวัตถุวิสัย การมีโครงสรางการบริหารที่ชัดเจน มีกฎเกณฑตายตัว หรือทฤษฎีที่เปนการรวมศูนยและมีลักษณะใชได ทั่วไปครอบคลุมและควบคุมทุกสิ่งจากสวนกลาง จึงทําใหไมสามารถปรับตัวหรือยืดหยุนใหเขากับการเปลี่ยนแปลงของสังคม
อยางรวดเร็ว และมีความหลากหลาย นอกจากนี้ ยังตอตานการไดมาของความรูที่เนนวิธีการทางวิทยาศาสตรเพราะไมใชเปน แหลงที่มาของความรูแตเพียงแนวทางเดียว โดยใหความสนใจกับการใหขอมูลเชิงคุณภาพ การใชทฤษฎีพื้นฐาน และการเขา
ไปมีสวนรวมในการศึกษากับสิ่งที่ศึกษา แตโดยเหตุที่รัฐประศาสนศาสตรหลังสมัยใหมเนนการโจมตีและมีเนื้อหาตรงขามกับ ทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตรสมัยใหม จึงทําใหทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตรหลังสมัยใหมไมไดรับการยอมรับวาเปนทฤษฎีทางรัฐ
ประศาสนศาสตรใหม คงเปนไดเพียงแนวความคิดทางรัฐประศาสนศาสตรหลังสมัยใหม ซึ่งมีสวนในการขยายความชัดเจนของ ทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตรสมัยใหมเทานั้น
คําสําคัญ: สมัยใหม หลังสมัยใหม วัตถุวิสัย ทฤษฎีพื้นฐาน
Abstract
The objective of this study was to study the comparative modernism public administration to postmodernism public administration transformation in concept and comparative methodology in issues
and different dimensions.
The finding indicated that postmodern public administration the concept is against the public administration in the modern era focused objectivity having a clear management structure, fixed rules or
the theory of a centralized are available online coverage and control everything centrally. It could not be flexibility to meet rapidly changing society and diverse. Other than against the acquisition of knowledge
that focuses on the scientific method because it is not a source of knowledge, but just the same way.
The 2nd Khon Kean University International Conference on Public Administration 2015
Interest the qualitative information, ground theory and participated in the study with the study but by virtue of the public administration, postmodern focus attacks and have the content, as opposed to the
theory of modern public administration postmodern public administration theory is not accepted as a new theory of public administration. It was not just postmodern concept of public administration. This
has contributed to the extension of the theory of modern public administration only. But there are those who support the concept of Public postmodern lot.
Keyword: Modern, Postmodern, Objectivity, Ground Theory
The 2nd Khon Kean University International Conference on Public Administration 2015
บทนํา สังคมที่เราอาศัยอยูมีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาอยูตลอดเวลา มีแนวคิดและการปฏิบัติที่แตกตางขัดแยงกันอยูเสมอ
แนวคิดและการปฏิบัติถือไดวาเปนปจจัยสําคัญทําใหเกิดปญหาสังคมทุกยุคทุกสมัย ในทางรัฐประศาสนศาสตรก็เชนเดียว ก็มี การคิดและการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลงอยางตอเนื่องไมหยุดยั้ง มีการคิดใหมและทําใหมอยูเสมอ ดังนั้น การศึกษารัฐประศาสน
ศาสตรจึงจําเปนอยางยิ่งที่ตองศึกษาวิเคราะหใหรูเขาใจแนวความคิดทางรัฐประศาสนศาสตรที่เกิดขึ้นในแตละยุคสมัย ที่สงผล มาถึงแนวคิดทางรัฐประศาสนศาสตรในปจจุบัน เราตองยอมรับวา สังคมนี้เปนสังคมสมัยใหมที่เจริญทางวัตถุ วิทยาศาสตรและ
เทคโนโลยี อันมีทั้งผลดีและเสีย สรางทั้งความเจริญรุงเรืองและความเสื่อมเสีย สังคมมนุษยเจริญกาวหนามากเทาไร มนุษยยิ่ง จําเปนตองการรูตนเองและสังคมมากเทานั้น นักคิดทางรัฐประศาสนศาสตรทั้งหลายจึงพยายามศึกษาเปรียบเทียบสิ่งตางๆ
ทั้งหลายในอดีตกับปจจุบัน เพื่อความรูเขาใจความเปนมนุษยกับสังคม เห็นความแตกตางของสิ่งทั้งหลายอยางชัดเจนที่เปนไป ตามกาลเวลา ตามหลักสัจจธรรมที่วา ทุกสิ่งทุกอยางลวนอนิจจังไมเที่ยงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ในดานความคิด ความ
เชื่อ คานิยม การปฏิบัติ วิทยาการ สิ่งประดิษฐ และเทคโนโลยีทั้งหลาย เกิดการยอมรับการวิวัฒนาการสังคมกันอยาง แพรหลาย ทําใหเกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหมแทนของเดิม ทําใหของเดิมที่มีอยูแลวกลับถูกมองเห็นวาเกาโบราณลาหลังไม
ทันสมัย ไมยอมรับกันอีกตอไป อะไรคือความจริง อะไรคือใหม อะไรคือเกา อะไรคือทันสมัย อะไรคือลาหลัง เพราะเมื่อสังคม เปลี่ยนทฤษฎีรัฐประศาสนศาสตรในยุคสมัยใหมไมสามารถตอบโจทยของสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได ยิ่งไปกวานั้น การ
ปฏิเสธวิธีการทางวิทยาศาสตรและตรรกปฏิฐานนิยมที่ยอมรับนับถือกันมานานวาเปนสิ่งที่ถูกตองในการเขาหาความจริงเปน เรื่องที่ทาทายเปนอยางยิ่ง และเปนเรื่องที่นักรัฐประศาสนศาสตรในยุคปจจุบันไมควรละเลยที่จะศึกษารัฐประศาสนศาสตรหลัง
สมัยใหม บทความเรื่องนี้ จึงมุงที่จะเสนอแนวคิดและพัฒนาการของรัฐประศาสนศาสตรศึกษาเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง แนวคิดสมัยใหมมาสูแนวคิดหลังสมัยใหม ผานแนวคิดและวิธีการศึกษาเชิงเปรียบเทียบ เพื่อชี้ใหเห็นถึงมุมมองอีกดานหนึ่งของ
รัฐประศาสนศาสตร ซึ่งมักจะมีมุมมองที่แตกตางและหลากหลายอยูเสมอ
แนวคิดยุคสมัยใหม Modernism
ยุคสมัยใหม modernism มีบอเกิดแหงความรูเปนสองวิธีการหลักคือ แบบแรกเปนประจักษนิยม empiricism ที่ รับรูความจริงผานความสิ่งตางๆที่สัมผัสไดเองหรืออายตนะ 5 อันไดแก หู ตา จมูก ลิ้นและกายสัมผัส ซึ่งคอยๆมีวิวัฒนาการใน
เปนประจักษนิยมแบบวิทยาศาสตร scientific empiricism หรือวิทยาศาสตรสมัยใหม modern science ที่มีการพัฒนา ไปสูระเบียบวิธีการ methodology ของนักคิดยุคสมัยใหม ดังนั้นวิทยาศาสตรและเหตุผลก็อยูดวยกันมาตลอด ซึ่งก็ได
เปลี่ยนไปจากความรูที่เกิดจากมุมมองทางศาสนาตั้งแตนั้นเปนตนมา
แนวคิดในยุคสมัยใหมกอตัวขึ้นในศตวรรษที่ 18 ในยุคแหงความรูแจง Enlightenment อันเปนผลมาจากการ ประดิษฐคิดคนและความเจริญกาวหนาทางวิทยาศาสตร ทําใหมนุษยมีความมั่นใจและกลาคิดกลาแสดงออกซึ่งเหตุผลโดยเชื่อ
วาเมื่อมนุษยสามารถคนพบเหตุผลในทางวิทยาศาสตรในการอธิบายปรากฏการณตางๆ ไดแลวเหตุใดจะใชเหตุผลในการ อธิบายปรากฏการณธรรมชาติของสังคมมนุษยไมได มนุษยมีเจตจํานงเสรีที่จะกระทําการตางๆ เพื่อสรางสรรคประโยชนสุข
ของตนและสังคม เครื่องมือที่สําคัญที่มนุษยคิดคนขึ้นมาก็คือ หลักเหตุผล ซึ่งถือวาเปนธรรมชาติที่มนุษยมีอยูในตัวและชวยให มนุษยเขาถึงแกนแทของสรรพสิ่งตางๆได สามารถจัดแบงสิ่งตางๆออกเปนหมวดหมูได
ยุคนี้เองจึงเปนยุคที่มนุษยเริ่มนําหลักเหตุผลมาหักลาง แนวคิดลัทธิเทวสิทธิ์ และ ไสยศาสตร โดยเกิดการเคลื่อนไหว ของเหลานักคิด นักเขียน และนักปรัชญาในยุโรปที่มุงปฏิรูปสังคมและการเมือง นักปรัชญาสังคมคนสําคัญของยุคนี้ เชน
The 2nd Khon Kean University International Conference on Public Administration 2015